ใน http://toomanythink.blogspot.com/
ความคิดไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันได้จริงๆ หลายคนมีไอเดียดีๆ อยู่เสมอ ในขณะที่หลายๆ ก็จ้องใช้ตัวกระตุ้นซักหน่อยไอเดียดีๆ จึงจะเกิด ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่ต้องการความแตกต่าง ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการไอเดียแปลกใหม่สำหรับการสร้างสรรค์ด้วย ไม่ว่าจะไอเดียธุรกิจ ไอเดียการเขียนนิยาย ไอเดียการแต่งบ้าน ไอเดียวาดภาพ ไอเดียการเขียนหนังสือ ไอเดียการจัดงานวันเกิด หรือ อีกหลายต่อหลายสิ่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่บางที เราก็ไม่สามารถ คิดๆๆๆๆ ทุกอย่างได้ตลอดย่อมมีวันที่สมองน้อยๆ ของเรา หมดหนทางสร้างงานหรือ สิ่งใหม่ๆ ได้ วันนี้มาดู 5 วิธีจุดติดไฟให้สมองของเรากัน เผื่อไอเดียใหม่ๆ จะเกิดขึ้นบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งปวดหัวคิดมากกันครับ
1. สร้างไอเดียจากการต่อยอดหรือดัดแปลง วิธีนี้เป็นวิธีที่นักธุรกิจ หรือ นักสร้างสรรค์ใช้กันบ่อย เรามีอะไรอยู่แล้วในมือ และจะปรับปรุงพัฒนา หรือเพิ่มค่ามันอย่างไร
ขอลองยกตัวอย่างกัน ซักหน่อยครับ Facebook สิ่งๆ นี้คือ Social Network online ขนาดยักษ์ของโลกจริงหรือไม่ ผู้คนเข้ามาสัมพันธ์วนเวียน แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้ง สาระ ไร้สาระ เรื่องทั่วไป เรื่องรักๆ ใคร่ และอีกมากมาย ทีนี้ ก็มีองค์กรคริสเตียน หัวใส หยิบเอา Facebook มาเป็นธีมในการ สร้างเครือข่ายของคริสเตียนขึ้นเพื่อน ประกาศศาสนาในแบบของเค้าโดยผ่านทั้ง0 Facebook และสร้างเว็บหน้าตาละม้ายกัน ได้ตั้งชื่อ Page ว่า Faithbook ถือว่าไม่เลวเลย เพราะได้กระแสมาพร้อมๆ กันด้วยเลย โดยงานแบบนี้ ผมเรียกว่าเป็นการ จับกระแสนะครับ ไม่ใช่ลอกเลียนแบบ และเป็นการดัดแปลงได้อย่างยอดเยี่ยมเลย แม้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ก็เกาะกระแสองค์กรธุรกิจแบบนี้ก็เจ๋งนะครับ
มาดู Facebook กับ Faithbook กัน
การต่อยอดความคิดนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาความคิด หรือไอเดียของคนอื่นมาต่อยอดนะครับเราก็สามารถนำ ไอเดียของเรามาต่อยอดให้ดีได้ด้วย
ตัวอย่างที่ดีคือ เจ้าของ สาหร่าย "เถ้าแก่น้อย" คุณ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (ต๊อบ)
สรุปสั้นๆ ก็คือ ทีแรกเค้าทำธุรกิจ เฟรนชายเกาลัด แต่ได้นำ สาหร่ายทอดมาวางขาย ด้วยเป็นตัวเสริม แต่ดูแล้วสาหร่ายจะขายดีกว่า เขาก็ต่อยอดเอาสาหร่ายมาเป็นธุรกิจหลักแทน ครับ อยากอ่านเพิ่ม ที่นี่ครับ >>> http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9480000004118 ตอนนี้ GTH ก็นำไปทำหนังแล้วด้วย ติดตามชื่อเรื่อง ว่า วัยรุ่นพันล้าน สนใจก็เตรียมไปหาชมได้ครับ เห็นมั้ยครับ บางครั้งไอเดียก็อาจจะมาจาก ประสบการณ์ หรือ มันวิ่งเข้ามาหาเรา ขอแค่เรามองมันให้เป็นโอกาสเท่านั้นเองครับ
2. ไอเดียดีๆ บางครั้งก็อยู่ในกล่อง ไม่ได้หมายถึงกล่องกระดาษที่ปิดเทปกาวหรอกนะครับ กล่อง ที่กำลังพูดถึงคือ โทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ จอภาพยนตร์ จอหนังกลางแปลง บลาๆๆๆๆ ความจริงก็คือเปิดรับสื่อครับ ลองชมหรือดูอย่างพินิจพิเคราะห์ดูซักหน่อย หรือบางครั้งเวลาดูเวลาเห็นผ่านๆ ตาแต่เกิดไอเดียก็อย่าลืมจดเอาไว้ ไอรายการที่บางครั้ง เราเองก็มองว่า ไร้สาระ บางทีก็ก่อให้เกิดไอเดียได้เหมือนกัน บางครั้งเวลาที่เรามัวแต่นั่งครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะ ลองผ่อนคลายอารมณ์และ หาน้ำเย็นๆ นั่งดูจอกล่องพวกนี้ดูบ้างครับ บางทีความคิดดีๆ ก็แล่นออกมาได้เหมือนกัน หรืออีกวิธีคือลอง เปิดช่องที่ไม่เคยดู หรือ รายการที่ไม่เคยสนใจดูบ้างบางครั้ง เราก็อาจได้พบอะไรใหม่ๆ ก็เป็นได้ ผู้ชายก็ลองดูรายการผู้หญิงบ้าง ส่วนผู้หญิงก็ลองดู แข่งรถ ชกมวยบ้าง ไม่แน่อาจจะมีอะไรดีๆ แว๊บมาในความคิด
3. ออกไปมองฟ้าและดาวที่กว้างใหญ่ วลีนี้เป็นความจริงครับ อุดอู้อยู่ในห้อง หรือมัวจมอยู่กับตัสเองมากเกินไป บางครั้งก็ทำให้เราวนเวียนอยู่กับความคิดซ้ำๆ ซากๆ นะ ลองเดินออกไปหน้าปากซอยดูบ้าง ไปดูผู้คนเดินฉับๆ ไปยืนบนสะพานลอยดูรถสวนกันเวลากลางคืน หรือ ขึ้นดอยไปดูดาว หาร้านกาแฟจิบ อ่านนู้นอ่านนี้ บางครั้งเราก็จะเจอ สิ่งที่เรากำลังหาอยู่ก็ได้(ไม่ใช่เนื้อคู่นะ ผมหมายถึงความคิด) ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ผมเคยคิดหาเงินรายได้เสริมซักหน่อย นั่งคิดอยู่นาน นั่งเสริทหาในเน็ตบ้างล่ะ คิดอยู่นานนมไอเดียก็พอมีนะครับ แต่วันนึ่งเดินไป ๆ ก็เกิดหิวครับ อยากกินข้าวซักหน่อย ก็ผ่านหน้าโรงเรียนพิเศษแห่งหนึ่ง มีลูกชิ้น มีน้ำขาย แต่ก็ไม่มีข้าว นึกอยากกินไข่เจียว นั่นแหละ พบความต้องการของตัวเองและผู้อื่นจนได้ ปิดเทอมนั้น ก็เลยขายไข่เจียวครับ เอารถ โฟล์ก ออกไปขาย ขายดีนะขอบอก กำไรเยอะเชียว บางทีมันก็ง่ายๆ แบบนี้แหละครับ แต่เราหามันไม่เจอเท่านั้นเอง Creative thinking บางทีก็เกิดได้ในบรรยากาศใหม่ๆ นะครับ
4. ลองเปิดใจรับฟังไอเดียเด็กๆ ดูก็ดีเหมือนกัน เด็กๆ นั้นไร้เดียงสา ไม่มีประสบการณ์ ความคิดของเขาจึงเรียบง่ายไม่ซับซ้อน และบางครั้งเรื่องของความคิดก็เป็นแบบนั้น เรียบง่ายแต่ดี และทรงประสิทธิภาพ คำถามบางอย่าง หรือความคิดบางอย่างผู้ใหญ่ถูกตีกรอบไว้แล้ว ถามยังไงก็ตอบแทบจะเหมือนกันหมด แต่เด็กอาจจะตีความ และให้คำตอบคุณได้อย่างประหลาด และหลายๆ ครั้งไอเดียเหล่านั้นก็สุดบรรเจิค และสร้างสรรค์ได้อย่างเกิน ความคาดหมาย ความคิดของเด็กๆ นั้น ตจึงเป็นสิ่งมีค่า เป็นของใหม่เสมอ ต่างกับผู้ใหญ่ที่หลายครั้ง คิดแต่วิธีการ หรือ เรื่องเดิมๆ เก่าๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 4 วิธีเรียกความคิดสร้างสรรค์ ให้กับตัวคุณ หวังว่าคงจะถูกใจกันไม่มาก ก็ม๊ากมาก หุหุ เพราะเรา อยากให้คุณมีความคิดดีๆ เราจึงนำมาแบ่งปันกันครับ ลองทำตามได้ผลไม่ได้ผลยังไง ก็แชร์กันได้ครับ