วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ไอเดีย มาจากไหน 4 วิธีการเรียกความคิดใหม่ๆ ให้บังเกิด!! 4 Ways How To get new Idea

เขียนโดย พีระพัฒน์ โตวรกุล
ใน http://toomanythink.blogspot.com/

          ความคิดไม่ใช่สิ่งที่บังคับกันได้จริงๆ หลายคนมีไอเดียดีๆ อยู่เสมอ ในขณะที่หลายๆ ก็จ้องใช้ตัวกระตุ้นซักหน่อยไอเดียดีๆ จึงจะเกิด ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่ต้องการความแตกต่าง ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการไอเดียแปลกใหม่สำหรับการสร้างสรรค์ด้วย ไม่ว่าจะไอเดียธุรกิจ ไอเดียการเขียนนิยาย ไอเดียการแต่งบ้าน ไอเดียวาดภาพ ไอเดียการเขียนหนังสือ ไอเดียการจัดงานวันเกิด หรือ อีกหลายต่อหลายสิ่งที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่บางที เราก็ไม่สามารถ คิดๆๆๆๆ ทุกอย่างได้ตลอดย่อมมีวันที่สมองน้อยๆ ของเรา หมดหนทางสร้างงานหรือ สิ่งใหม่ๆ ได้ วันนี้มาดู 5 วิธีจุดติดไฟให้สมองของเรากัน เผื่อไอเดียใหม่ๆ จะเกิดขึ้นบ้าง จะได้ไม่ต้องนั่งปวดหัวคิดมากกันครับ

1. สร้างไอเดียจากการต่อยอดหรือดัดแปลง วิธีนี้เป็นวิธีที่นักธุรกิจ หรือ นักสร้างสรรค์ใช้กันบ่อย เรามีอะไรอยู่แล้วในมือ และจะปรับปรุงพัฒนา หรือเพิ่มค่ามันอย่างไร

ขอลองยกตัวอย่างกัน ซักหน่อยครับ Facebook สิ่งๆ นี้คือ Social Network online ขนาดยักษ์ของโลกจริงหรือไม่ ผู้คนเข้ามาสัมพันธ์วนเวียน แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้ง สาระ ไร้สาระ เรื่องทั่วไป เรื่องรักๆ ใคร่ และอีกมากมาย ทีนี้ ก็มีองค์กรคริสเตียน หัวใส หยิบเอา Facebook มาเป็นธีมในการ สร้างเครือข่ายของคริสเตียนขึ้นเพื่อน ประกาศศาสนาในแบบของเค้าโดยผ่านทั้ง0 Facebook และสร้างเว็บหน้าตาละม้ายกัน ได้ตั้งชื่อ Page ว่า Faithbook ถือว่าไม่เลวเลย เพราะได้กระแสมาพร้อมๆ กันด้วยเลย โดยงานแบบนี้ ผมเรียกว่าเป็นการ จับกระแสนะครับ ไม่ใช่ลอกเลียนแบบ และเป็นการดัดแปลงได้อย่างยอดเยี่ยมเลย แม้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ก็เกาะกระแสองค์กรธุรกิจแบบนี้ก็เจ๋งนะครับ

มาดู Facebook  กับ  Faithbook กัน

ความคิดสร้างสรรค์ความคิด สร้างสรรค์
การต่อยอดความคิดนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาความคิด หรือไอเดียของคนอื่นมาต่อยอดนะครับเราก็สามารถนำ ไอเดียของเรามาต่อยอดให้ดีได้ด้วย 
ตัวอย่างที่ดีคือ เจ้าของ สาหร่าย "เถ้าแก่น้อย" คุณ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (ต๊อบ)

ต่อยอดธุรกิจ

สรุปสั้นๆ ก็คือ ทีแรกเค้าทำธุรกิจ เฟรนชายเกาลัด แต่ได้นำ สาหร่ายทอดมาวางขาย ด้วยเป็นตัวเสริม แต่ดูแล้วสาหร่ายจะขายดีกว่า เขาก็ต่อยอดเอาสาหร่ายมาเป็นธุรกิจหลักแทน ครับ อยากอ่านเพิ่ม ที่นี่ครับ >>> http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9480000004118 ตอนนี้ GTH ก็นำไปทำหนังแล้วด้วย ติดตามชื่อเรื่อง ว่า วัยรุ่นพันล้าน สนใจก็เตรียมไปหาชมได้ครับ เห็นมั้ยครับ บางครั้งไอเดียก็อาจจะมาจาก ประสบการณ์ หรือ มันวิ่งเข้ามาหาเรา ขอแค่เรามองมันให้เป็นโอกาสเท่านั้นเองครับ


ผู้หญิงถึงผู้หญิง2. ไอเดียดีๆ บางครั้งก็อยู่ในกล่อง ไม่ได้หมายถึงกล่องกระดาษที่ปิดเทปกาวหรอกนะครับ กล่อง ที่กำลังพูดถึงคือ โทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ จอภาพยนตร์ จอหนังกลางแปลง บลาๆๆๆๆ ความจริงก็คือเปิดรับสื่อครับ ลองชมหรือดูอย่างพินิจพิเคราะห์ดูซักหน่อย หรือบางครั้งเวลาดูเวลาเห็นผ่านๆ ตาแต่เกิดไอเดียก็อย่าลืมจดเอาไว้ ไอรายการที่บางครั้ง เราเองก็มองว่า ไร้สาระ บางทีก็ก่อให้เกิดไอเดียได้เหมือนกัน บางครั้งเวลาที่เรามัวแต่นั่งครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะ ลองผ่อนคลายอารมณ์และ หาน้ำเย็นๆ นั่งดูจอกล่องพวกนี้ดูบ้างครับ บางทีความคิดดีๆ ก็แล่นออกมาได้เหมือนกัน หรืออีกวิธีคือลอง เปิดช่องที่ไม่เคยดู หรือ รายการที่ไม่เคยสนใจดูบ้างบางครั้ง เราก็อาจได้พบอะไรใหม่ๆ ก็เป็นได้ ผู้ชายก็ลองดูรายการผู้หญิงบ้าง ส่วนผู้หญิงก็ลองดู แข่งรถ ชกมวยบ้าง ไม่แน่อาจจะมีอะไรดีๆ แว๊บมาในความคิด


ไอเดีย3. ออกไปมองฟ้าและดาวที่กว้างใหญ่ วลีนี้เป็นความจริงครับ อุดอู้อยู่ในห้อง หรือมัวจมอยู่กับตัสเองมากเกินไป บางครั้งก็ทำให้เราวนเวียนอยู่กับความคิดซ้ำๆ ซากๆ นะ ลองเดินออกไปหน้าปากซอยดูบ้าง ไปดูผู้คนเดินฉับๆ ไปยืนบนสะพานลอยดูรถสวนกันเวลากลางคืน หรือ ขึ้นดอยไปดูดาว หาร้านกาแฟจิบ อ่านนู้นอ่านนี้ บางครั้งเราก็จะเจอ สิ่งที่เรากำลังหาอยู่ก็ได้(ไม่ใช่เนื้อคู่นะ ผมหมายถึงความคิด) ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ผมเคยคิดหาเงินรายได้เสริมซักหน่อย นั่งคิดอยู่นาน นั่งเสริทหาในเน็ตบ้างล่ะ คิดอยู่นานนมไอเดียก็พอมีนะครับ แต่วันนึ่งเดินไป ๆ ก็เกิดหิวครับ อยากกินข้าวซักหน่อย ก็ผ่านหน้าโรงเรียนพิเศษแห่งหนึ่ง มีลูกชิ้น มีน้ำขาย แต่ก็ไม่มีข้าว นึกอยากกินไข่เจียว นั่นแหละ พบความต้องการของตัวเองและผู้อื่นจนได้ ปิดเทอมนั้น ก็เลยขายไข่เจียวครับ เอารถ โฟล์ก ออกไปขาย ขายดีนะขอบอก กำไรเยอะเชียว บางทีมันก็ง่ายๆ แบบนี้แหละครับ แต่เราหามันไม่เจอเท่านั้นเอง Creative thinking บางทีก็เกิดได้ในบรรยากาศใหม่ๆ นะครับ

เด็ก สร้างสรรค์
4. ลองเปิดใจรับฟังไอเดียเด็กๆ ดูก็ดีเหมือนกัน เด็กๆ นั้นไร้เดียงสา ไม่มีประสบการณ์ ความคิดของเขาจึงเรียบง่ายไม่ซับซ้อน และบางครั้งเรื่องของความคิดก็เป็นแบบนั้น เรียบง่ายแต่ดี และทรงประสิทธิภาพ คำถามบางอย่าง หรือความคิดบางอย่างผู้ใหญ่ถูกตีกรอบไว้แล้ว ถามยังไงก็ตอบแทบจะเหมือนกันหมด แต่เด็กอาจจะตีความ และให้คำตอบคุณได้อย่างประหลาด และหลายๆ ครั้งไอเดียเหล่านั้นก็สุดบรรเจิค และสร้างสรรค์ได้อย่างเกิน ความคาดหมาย ความคิดของเด็กๆ นั้น ตจึงเป็นสิ่งมีค่า เป็นของใหม่เสมอ ต่างกับผู้ใหญ่ที่หลายครั้ง คิดแต่วิธีการ หรือ เรื่องเดิมๆ เก่าๆ


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 4 วิธีเรียกความคิดสร้างสรรค์ ให้กับตัวคุณ หวังว่าคงจะถูกใจกันไม่มาก ก็ม๊ากมาก หุหุ เพราะเรา อยากให้คุณมีความคิดดีๆ เราจึงนำมาแบ่งปันกันครับ ลองทำตามได้ผลไม่ได้ผลยังไง ก็แชร์กันได้ครับ

ทำไมคน ชอบพูดคำว่า ทำไม? Why Why Why

งง          ทำไม ทำไม ทำไม !!!! 

          เรื่องชวนหัวหน้าคิดวันนี้ คือ ทำไม คนชอบพูดคำว่า ทำไม??? คนเราตอบสนองต่อความความสงสัย ด้วยวลีสั้นๆ ที่ว่า ทำไม เสมอๆ ลองคิดเล่นๆ ดูก็ได้ครับว่า ในหนึ่งวัน คุณเองพูดว่าทำไม ไปกี่ครั้ง ก่อนจะมานั่งพร่ำให้คุณอ่านผมก็ได้ไปทดสอบโดยการ ถามพี่ชายของผมไปว่า "พี่ๆ เวลาคนเราสงสัยอะไรคนเราจะทำยังไง?"

"ไม่รู้ ถามทำไม!!" คำตอบสั้นๆ ห้วนๆ ที่ไม่ได้ทำให้เกิดอะไรใหม่ในสังคม ก็ออกจากปากท่านพี่ของผม



ทำไม? = Why? 

          แล้วคุณละครับ เวลาที่จะคิด จะริเริ่ม สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ เคยเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า?
สิ่งสารพัด ในโลกนี้เกิดขึ้นมา คำว่าทำไม นั้นมีส่วนทำให้เกิดขึ้น แต่ คำว่าอย่างไร? น่าจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดงานสร้างสรรค์ใหม่ๆ เสียมากกว่า

เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น
ทำไม
          มีอยู่ครั้งนึงผู้เขียนได้รับมอบหมายจากมูลนิธิที่ช่วยงานอยู่ให้ หาทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในวันพันธกิจ(คล้ายๆ วันเกิดโครงการอะไรประมาณนั้น) ก็ได้รับมอบหมายให้นำเด็กๆ ที่สอนอยู่ประดิษฐ์ของเล็กๆ น้อยๆ สำหรับขายหาทุน พอดูงบ ความคิดที่เกิดขึ้นครั้งแรกก็คือ โอ้ ทำไมงบเราน้อยจัง ได้งบมาน่าจะ 1000 ได้ แล้วเด็กก็หลายคนอยู่ และผู้เขียนเองสอนคอมพิวเตอร์ให้เด็กน้อย การจะทำสินค้าบางอย่างจากคอมก็ค่อนข้างยากอยู่(สำหรับเด็ก ป.4) โจทย์คือ ผลงานตามชมรมของเด็กๆ ก็คือ คอมพิวเตอร์ พอคิดว่าจะ ทำการ์ดซักหน่อย ชมรมศิลปะก็จองไปซะแล้ว พอเปลี่ยนจะทำที่คั่นหนังสือ เด็กๆ ชมรมรักการอ่านก็สอยไอเดียไปก่อนซะแล้ว คำถามที่สองก็ตามมา ทำไมคิดยากจังคิดยังไงก็ซ้ำ คิดๆๆๆ ยังไงก็คิดไม่ออก พอดูงบประมาณ และคาดการณ์ กำไรที่ต้องได้แล้ว ก็เกิดคำถามในใจอีก ทำไมต้องหาเงินเยอะจัง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ผู้บริจาคน้อยลงไป ค่าอาหารกลางวัน หนูๆ ก็ขึ้น ค่าอื่นๆ อีก ขึ้นหมด แถมเงินบริจาคจาก USA เป็นเงินดอล โดนค่าเงินบาทแข็งเข้าไป งบประมาณขาดกระจุย ก็เลยต้องหาเยอะอยู่

          ผู้เขียนก็เลย ตั้งโจทย์ใหม่กับเด็กๆ ว่า
ทำไมงบน้อยจัง เปลี่ยนเป็น จะทำอย่างไรให้งบที่มีใช้ได้คุ้มค่าที่สุด
ทำไมคิดยากจังคิดยังไงก็ซ้ำ เปลี่ยนเป็น จะสร้างความแตกต่างอย่างไร?
ทำไมต้องหาเงินเยอะจัง เปลี่ยนเป็น ทำอย่างไรที่จะลกต้นทุน และเพิ่มกำไรจาการขายของที่ระลึกได้?

          คำว่า ทำไม ทำไม ทำไม จะทำให้เรามองที่ปัญหา ย้ำๆ ซ้ำๆ อยู่อย่างงั้น และไม่ก่อให้เกิดวิธีการแก้ปัญหา จะต่างกับคำว่า อย่างไร? หรือ How ซึ่งจะนำไปสู่การคิดต่อยอด ความคิดสร้างสรรค์ได้

ในที่สุด ก็ปิ้งไอเดียทำปฎิทิน น้องในชมรมคนหนึ่งก็บอกขึ้นมา เราวาดรูปได้ เราอยากวาดรูป ผู้เขียนจึงให้วาดรูปลงในกระดาษนั่นแหละ แล้ว สแกนใส่คอม และให้เด็กๆ ตกแต่งรูปง่ายๆ ด้วย โปรแกรมโฟโตช็อป และนำภาพนั้นไปทำปฎิทินไม้สวยงาม ผลงานจึงโดดเด่น และขายได้กำไร เท่าตัวจากที่ลงทุนไปวันนี้เอารูปมาให้ดูด้วย

ปฎิทิน สร้างสรรค์
รูปตัวอย่างผลงาน ฝีมือเด็กๆ ชมรมทำ


ตัวอย่างที่ดี ของคำว่า ทำไม และอย่างไร?

เมื่อนานมาแล้ว มีเด็กชาย ที่ชื่อว่า ไอแซก นิวตัน ชอบไปแอบนอนหลับใต้ต้น แอ๊ปเปิ้ล เป็นประจำทุกๆ บ่าย วันหนึ่ง บังเอิญว่า ต้นแอ๊ปเปิ้ลนั้น โตเต็มที่และกำลังออกผล ผลที่สุกก็ หล่นตุ๊บ ใส่กลางกระบาน เด็กชายไอแซค นิวตัน จนสะดุ้งตื่น เด็กชายไอแซก ก็ ตัดพ้อ ต้นไม้นั้นว่า

"คุณต้นไม้นี่นะ ใจร้ายจัง ...ทำไมต้องทิ้งแอ๊ปเปิ้ลใส่หัว หนูด้วย"

"..." ต้นไม้ไม่ตอบอะไร แต่ทิ้งแอ๊ปเปิ้ลอีกลูกลงกลาง หัว เจ้าเด็กน้อยอีกครั้ง

"โอ้ย!!! ทำไมต้องตกลงมาตรงนี้ด้วย!!!" เด็กน้อยตะโกนต่อว่า

"..." ต้นไม้ก็ยัง ไม่ตอบอะไร สุดท้ายเด็กน้อย มองขึ้นไป เห็นแอ๊ปเปิ้ล อีกลูกกำลังจะตกลงมา เด็กน้อยจึง
หลบได้ และเริ่มเกิดความคิดใหม่ๆ ว่า มันตกลงมาได้อย่างไร?

เด็กน้อย เห็นว่า ของที่ตกลงมาเวลาตกจะตกลงมา จากข้างบนสู่พื้น ในทิศทางตรง เด็กน้อยเรียกกระบวนการนี้ว่า แรงดึงดูดของโลก


สำหรับคนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง นะครับ ถ้า เรามัวตัดพ้อต่อว่า โชคชะตา ว่า

ทำไมชีวิตฉันถึงแย่แบบนี้
ทำไมลูกๆ ถึงทะเลาะกัน
ทำไมมันถึงไม่เป็นอย่างี้
ทำไมถึงไม่เป็นอย่างงั้น
...ทำไมถึงทำกับฉันได้

ลองเปลี่ยนคำว่า ทำไม เป็นคำว่าอย่างไร? กันดีกว่า ทำอย่างไรชีวิตฉันถึงจะดีขึ้น ทำอย่างไรลูกๆ จะรักกัน ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ก็จะดูมีความหวังกว่า พร่ำๆ บ่นๆ ทำไมๆๆๆ นะครับ ทำไมจะบอกเราถึงสาเหตุ ส่วนทำอย่างไร? จะบอกถึงการแก้ปัญหา


"แค่เปลี่ยนความ...คิดชีวิตก็เปลี่ยน" จริงๆ นะครับ ^^


เขียนโดย พีระพัฒน์ โตวรกุล



วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

กรุณาฟังฮาจ่ม เพลง แปลกๆ ฮาๆ คิดได้ไง


เพลง แปลง แปลกๆ ฟังแล้ว หายเครียด กรุณาฟังฮาจ่ม ขำๆ(ภาษาเหนือ)


วันนี้ Too many think ขอเสนอคลิป ขำๆ สุดตลก ครับ วันนี้มีโอกาสได้ฟังเพลงๆ นึง เป็นเพลงแปลงที่มี เนื้อโดนใจมากๆเลย ชื่อว่าเพลง กรุณาฟังฮาจ่ม เป็น คำเมืองภาษาเหนือ ครับ แต่คิดว่า น่าจะพอฟังกันออก เนื้อความ ก็ประมาณว่า สามี(ผัว) คนนึงคอยรับใช้ภรรยา(เมีย) อย่างไม่เคยบ่นปริปากซักคำ สุดท้ายด้วยความอดกลั้นจะถึงที่สุด อาการคิดเยอะก็เลย ปรี๊ดแตก ร้อง บ่นออกมาเป็นเพลง งานนี้ก็เลย มีงอน กันอะไรประมาณนั้นเลย เพลงสนุก ฟัง ขำๆ ครับ เป็นเพลงแปลกๆ ที่อยากจะให้ลองฟังกัน เพลง ฟังฮาจ่ม จาก Mr.Hotpot ครับ คิดได้ไง ^^ 

ของขวัญแปลกๆ แปลกดีไม่เหมือนใคร!!~


ความคิดสร้างสรรค์ กับของขวัญแปลกๆ
Too many think วันนี้ ขอเสนอ ของขวัญล้ำๆ สวยงามแปลกตาครับ สุดยอด ความคิดสร้างสรรค์ ของวันนี้เกิดขึ้นเพราะ เรื่องมันมีอยู่ว่าขณะที่ผม กำลัง search ดูวีดีโอ สัตว์แปลกๆ ครับ เพราะมี FW Mail มาถึงเป็นเรื่องสัตว์แปลกๆ แต่ เสริทไปเสริทมา ไม่รู้พิมอะไรผิด ก็เลยไปเจอของแปลก เป็นของขวัญที่แม่ค้าของวัญเค้าโพสไว้ในเว็บบอร์ดเว็บนึงครับ ก็เลยถือโอกาสเอามาให้ดูว่ามันก็แปลกๆ ดี แถมของขวัญบางชิ้น ดูดี ดูเก๋ครับ อย่างเช่น ที่ทำย้ำแข็งรูปกีตาร์นี่ เท่ ชะมัดยากเลยครับ ดูกันเพลินๆ ไม่ต้องใช้ความคิดมากนะครับ อิอิ

ชิ้นนี้เป็น นาฬิกาวิ่งได้ครับ เห็นมั้ยเอ่ยว่ามันมีล้อ สงสัยว่าเวลาปลุก แล้วมันจะวิ่งไปทั่วห้องให้เรากดไม่ได้แน่ๆ เลย กว่าจะกดหยุดมันได้ก็คงตื่นเต็มตาแล้ว แหละนะ


อันนี้เป็นโมเดลใส่รูป Super Star (เค้าว่าอย่างงั้ยนะครับ) ที่แน่ๆ มีเจม บอร์นกับ มาลินริน มอนโรว์

นี่เป็นเจ้าตัวน่าชังครับ หมีแพนด้า สุดที่รักของคนไทยเวลานี้(หมีแพนด้าจะกลายเป็นสัตว์คู่ชาติอยู่แล้ว)


เค้าว่ากันว่า แก้วนี้ บอกอุณหภูมิได้ครับ ฮ่าๆๆๆๆ



ส่วนอันนี้ผมว่าน่าสนใจครับ ถาดทำน้ำแข็งรูปกีตาร์ เท่ไม่หยอกเลยทีเดียว


ก็เป็น ของขวัญแปลกๆ ที่ดูดีดูเท่ หลากหลายชิ้นนะครับ ก็นำมาให้ดู ประดับสมองครับ แวะไปเจอมาก็เลยเก็บมาฝากกัน
ของขวัญเดี๋ยวนี้ก็มีแปลกๆ อีกเยอะเลยครับคนเรานี่ช่างค้น ช่างสรรหาจริงๆ ความคิดสร้างสรรค์เยอะ เลยว่ามั้ยครับ ? ^^


ที่มามาจากลิงค์นี้นะครับ :::http://www.overclockzone.com/forums/showthread.php/589200





วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ความคิดสร้างสรรค์ คือ อะไร??? ใครก็ได้ช่วยบอกที

What is Creative thinking?                                                             


วิธีการสร้างองค์ความรู้ความคิดในโลกนี้ มี ด้วยกัน 3 แบบ

1.คิดแต่เรื่องเดิมเดิม เรียก คิดตาม เคยทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น
2.คิดแต่เรื่องใหม่ๆ เรียก คิดต่าง ใครเขาทำอะไร อย่าไปทำอย่างนั้น
3.คิดว่าจะนำเรื่องเดิมมาเพิ่มเติมให้ดีขึ้นได้อย่างไร? เรา เรียก คิดต่อยอด

3 ความคิดนี้ดี ทุกแบบ การคิดตาม ทำให้เกิด วัฒนธรรมอันดี คิดต่างทำให้เกิด นวัตกรรมใหม่ๆ คิดต่อยอดทำให้ เกิดการผสมผสานและทวีคูณความรู้

หาก คิดแต่เรื่องเดิมๆ ก็ไม่เกิดสิ่งใหม่ หาก คิดเรื่องไม่ คิดต่างแต่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่สร้างสรรค์ 


เกริ่นมาซะยาว และความคิดสร้างสรรค์ละ??? อยู่ตรงไหน???
อยู่ตรงนี้ >>>> ความคิดสร้างสรรค์(Creative thinking)

ดังนั้น ความคิดสร้างสรรค์ คือ "ความคิดอันเกิดจากกระบวนการคิดของมนุษย์ที่เป็นผลจากการวิเคราะห์ สังเคราะห์จนเกิดเป็นความรู้ หรือสิ่งใหม่ ที่แตกต่างจากเดิมและสามารถก่อให้เกิดประโยชน์จากการนำความคิดนั้นไปใช้คิดค้นและสร้างสิ่งใหม่ได้" (พีระพัฒน์ โตวรกุล)

คิดสร้างสรรค์หรือ

"ความคิดสร้างสรรค์ คือ กระบวนการคิดของสมองซึ่งมีความสามารถในการคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนำไปประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถูกต้อง จนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่..."   (สุพัตรา ทาวงศ์)







คำว่าความคิดสร้างสรรค์ มาจาก 2 คำว่า

คำว่าสร้าง = ก่อให้เกิดสิ่งใหม่
+
คำว่าสรรค์ = ก็แปลว่า สร้างเหมือนกัน

สร้างสรรค์ เป็นคำซ้อน แปลว่า สร้างให้เกิดสิ่งใหม่ พ้องเสียงกับคำว่า สรร ที่แปลว่า "สรร" ซึ่งแปลว่า  เลือก, หา 
ซึ่ง กลายเป็นคำว่า สรรสร้าง นั่นเอง

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

มีมั้ย??...วิธีไม่คิดมาก

ความคิดนี่เป็นกระบวนการที่ว่องไวมากเลยนะครับ

เราตอบสนองกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความคิดแบบไหนนั้น ก็เพราะกระบวนการดังต่อไปนี้ - ทันทีที่ ประสาทสัมผัส(หู ตา จมูก ปาก กายสัมผัส) รับรู้สิ่งเร้า...ก็จะแปลความหมาย แล้วส่งไปตามเส้นประสาท เข้าสู่สมอง สมองก็ตีความออกมา เป็นความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อสิ่งต่างๆ ที่ได้สัมผัสนั้น ซะแล้ว ถ้าเป็นความรู้สึกร้อน-เย็น, เหม็น-หอม นี่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่อง ที่ปวดหัวคนเรา ก็เพราะหัวกะบาลมันตีความตาม ทัศนะคติและประสบการณ์ ออกเป็นเรื่องที่คิดมากเกินไป แล้วจะแก้ได้ยังไง นี้เป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเท่านั้น ความคิดยังเกิดจากประสบการณ์เบื้องหลังอีก และหลายครั้งเกิดจาก Stereotypes หรือ การคิดแบบตายตัวอีก เช่น ฝรั่งรวย คนแขกตัวเหม็น คนใต้ดุ เขยไทยขี้เกียจ พวกนี้มันความคิดที่ตีตรา ลวงโลกทั้งนั้นเลย

           มีมั้ย??...วิธีไม่คิดมาก คุณเคยมั้ยที่มีอาการคิดมากไปเอง ...เช่น คุณได้ร่วมงานกับคนแปลกหน้า ขณะที่พบกันครั้งแรก คุณจับมือกับเขา แล้ว สบตากัน ดวงตาของคุณสังเกตเห็นว่า เขา ยิ้มที่มุมปากอย่างไม่เป็นมิตร ดวงตา ส่ง ข้อความ ไปตีความที่สมองเรียบร้อยแล้ว คุณรู้สึกไม่สบายใจ และคิดว่า คนๆ นี้ อาจไม่น่าไว้ใจ อึดอัดมากทำงานกับเค้าตั้งนานสุดท้าย เค้าก็แค่คน หน้าดุคนนึง คิดมากจนจะกลายเป็นโรคคิดมากกันไปอยู่แล้วคนสมัยนี้

           หรือ คุณโทรไปหาแฟน เธอพูดห้วนกับคุณ อย่างที่คุณไม่คุ้น คุณได้ฟัง และรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป??? แต่ความจริง  คุณโทรไปขณะที่เธอกำลังยุ่ง หรือคุณอ่านข่าว น้ำแข็งขั้วโลกละลาย คุณนั่งกังวล 3 วัน 7 วัน ว่าโลกกำลังจะถึงกาลอวสานจนทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง???

          มีคำถาม ถามกันบ่อย ทำไงดี ผมเป็นคนคิดมาก
คำถาม ที่ คนคิดมากควร ถามตัวเองกลับก็คือ คุณคิดมากทุกเรื่องรึเปล่า หรือบางเรื่อง ครับ

          สำหรับคนชอบคิดมาก และหาวิธีไม่คิดมากนั้น ผมอยากบอกว่า ทำไมได้หรอกครับ

          เพราะอะไร เพราะยิ่งคุณๆ ไม่อยากคิด คุณก็จะยิ่งคิดครับ มันจะมีอะไรต่อมิอะไร พุ่งออกมาจากหัวสมองเยอะไปหมด ภายในไม่กี่วินานาที เช่น ทำไงดีฉันคิดมากไป ทำยังไงให้คิดน้อยลงนะ มันต้องมีวิธีสิ หาในอินเตอร์เน็ตจะมีมั้ย เอ๊ะ เคยอ่านเจอในหนังสือเค้าบอกว่า...บลาๆๆๆ นั่นไงครับ ยิ่งคิดยิ่งมาเยอะ ความคิดคนเรานี่ก็แปลก

วันนี้ เราจะ มาเสนอ วิธี คิดเท่าเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพกันครับ 

1. คิดบวกดูดี และสบายใจ 
          ลองเปลี่ยนจากคำว่า  คิดมาก...วิตก...สับสน   มาเป็น    คิดเยอะ ...วิเคราะห์ ...สร้างสรรค์

คำ 2 ชุดนี้แตกต่างกันอย่างไรครับ ชุด ที่ 1 เป็นคำด้านลบ ฟัง แล้ว ดูหดหู่ ห่อเหี่ยวเหมือนเกี๊ยวซ่า แช่น้ำซุป ส่วนอีกชุด ความหมายคล้ายกัน มีบางคำที่สะกดด้วยอักษรใกล้เคียง แต่ฟังแล้วสดชื่นกว่ากัน เหตุการณ์เดิมครับ แต่เป็นด้านความคิดสร้างสรรค์ ในอีกมุมมอง ทุกอย่างไม่ได้มีแค่ด้านเดียวครับลองมองต่างมุมดูครับ

ดังนั้นไม่ว่าเจอสถานะการณ์ใดๆ ให้คุณๆ เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ สถานะการณ์นั้นครับ เชื่อเถอะครับถ้าเรามองมันเสียใหม่อะไรๆ ก็จะดีขึ้นครับ

ตัวอย่างที่ดี ::: คือ สตีป จ๊อบ เจ้าแห่งนวตกรรม แบรนด์ APPLE นั้นแหละครับ เค้าก่อนตั้ง บริษัท APPLE Inc. ตั้งแต่ยังอยู่วัยเรียน ดูแลจนกิจการเติบโต วันหนึ่งได้ตัดสินใจเพิ่มทุนโดยการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อเข้าตลาด ก็มีผู้ถือหุ้น และ เขาก็ได้รับแต่งตั้งเป็น CEO บริหารบริษัทซึ่งเขาก่อตั้ง แต่วันหนึ่ง เขาถูก ไล่ออกจากบริษัท ของตัวเอง ในที่สุดเขาก็ คิดมาก...วิตก...สับสน  จิตตกไปครับสุดท้ายเขาก็ ยืนหยัดใหม่โดยเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ เขาจึงตั้งบริษัท PIXAR (ที่ทำการ์ตูน 3D นั่นแหละครับ) ขึ้นมา และสุดท้ายก็ตั้งตัวได้ใหม่ และได้กลับเข้ามา บริหาร APPLE อีก และ ทำให้เกิดอะไรต่อมิอะไรดีๆ ให้คนทั้งโลกได้ใช้ จากความคิดที่ คิดเยอะ ...วิเคราะห์ ...สร้างสรรค์ ของเขานั่นเอง

"อย่าพยายามคิดในสิ่งที่จะทำร้ายตัวคุณเอง จงเอาเวลาที่คิดสิ่งนั้นไปคิดในสิ่งที่ดีกว่า และเกิดประโยชน์กว่า แค่เปลี่ยนวิธีการคิดชีวิตก็เปลี่ยน"


2. เบนเข็มความคิดออกจากความคิดเดิมๆ ที่ซ้ำเติมคุณอยู่
           คนที่จมอยู่กับความคิดเก่าๆ ไม่สามารถสลัด ความกังวลออกไปได้ สุดท้ายจะมีสภาพไม่ต่างจาก การจมปลักโคลนแห่งความท้อแท้ใจ อย่ามัวปล่อยตัวปล่อยเวลาเวียนว่ายอยู่ในบ่อโคลนเน่าๆ นั้นครับ ลองหากิจกรรม อื่นๆ ทำ หรือโฟกัสไปที่ สิ่งที่มีประโยชน์

- ลองหา คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และหากิจกรรมทำร่วมกับเขา
- หากิจกรรมที่ทำแล้วผ่อนคลาย เช่น เดินเล่น อ่านหนังสือ
- เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ การทำสิ่งใหม่ๆ จะทำให้ ชีวิตสดชื่น คุณจะโฟกัสที่มัน และ ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นมากกว่า

3. อย่าหาคนรับผิดชอบความคิดของคุณ!!
            หลายคนตกเป็นจำเลยความคิดของตัวเอง หรือไม่ก็พยายามหา แพะ มารับบาป เช่น เพราะเธอทำแบบนี้บ่อยๆ ฉันจึงอารมณ์เสีย เป็นความผิดของเขา หรือ เป็นเพราะโชคชะตาฟ้าดิน แต่ให้ทำความเข้าใจเบื้องหลังของบุคคล ที่ทำให้เขาหรือเธอ หรืออะไรก็ตาม ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ โดยไม่พุ่งเป้าที่ตัวบุคคล และคุณเองเท่านั้นที่จะต้องเป็นฝ่ายจัดการกับความคิดของคุณ ไม่ใช่คุณโทษตัวเอง แต่ให้คุณทำใจให้กว้างและปล่อยวางต่างหาก


อย่างไรก็ดีครับ ความคิดเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ง่าย แต่เป็นเรื่องที่บริหารกันได้ "ความสุขหรือความทุกข์ห่างกันแค่เส้นกั้นบางๆ ก็คือเส้นกั้นทางความคิดนี่แหละครับ" 


ไม่อย่างงั้น โบราณท่านจะว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจอย่างนั้นเหรอครับ คิดดีมีความสุข ก็สุขแท้เหมือนสวรรค์ คิดมากวุ่นวายพันลวัน ก็เหมือนฝันว่าตกนรกอยู่ร่ำไป เลิกคิดมาก และมาคิดเยอะในสิ่งที่สร้างสรรค์กันดีกว่าครับ ^^

เพลง คิดมาก ฟัง เถอะ...ไม่ต้องคิดมาก ^^

เพลง คิดมาก - Palmy 
เพลง ที่ฟังแล้วไม่ต้องคิวมาก ชิวๆ


          เนื่องจากบล๊อก นี้มีชื่อว่า Too Many Think ซึ่งแปลว่า คิดมากไป ก็เลย Search คำว่า คิดมากใน Google  พี่กูเกิ้ล ก็เลยแนะนำให้รู้จัก เพลงคิดมากครับ โอ้เพราะน่าดู ฟังแล้ว หาคิดมากเลยทีเดียว
ใครที่ยังไม่เคยฟังก็ลองมาฟังด้วยกันนะครับ ส่วนใครที่เคยฟังแล้วก็มาร้องตามกันเลยแล้วกัน เพลงคิดมากนี้ค่อนข้างฮิตมากเลยทีเดียวนะเนี่ย ยอดวิว มีตั้ง 2 ล้านกว่า

ชอบมากครับ MV คิดมากนี้ โดยเฉพาะฉาก ที่คุณลุง 2 คน เล่นหมากรุกไทย ฮามากเลย ปาล์มมี่ร้องเพลงไป แต่ ท่าทางเหมือนกระซิบ หูคุณลุง แถมยังไป แอบ เดินหมากให้ด้วย ใครเคยทำแบบนี้บ้างยกมือขึ้น ฮ่าๆๆๆ และวันนี้ก็เลยเอาเนื้อเพลงมากฝากด้วยครับ

---------------------------------------------------------

เนื้อเพลง คิดมาก
ศิลปิน - ปาล์มมี่

Intro : / C / C / C / C /
C                           Em                Am                  F7
บอกกับฉันได้ไหม มันเป็นความจริงหรือว่าฉันคิดมาก ใจฉันเริ่มจะหวั่นไหว กับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ
C                     Em            Am                      F7
บอกความในใจกับฉัน อยากจะรู้ว่าใจเธอคิดเช่นไร หรือว่าเธอคิดจะแกล้งกัน เธออยากเห็นน้ำตาของฉันใช่ไหม

Dm          Em    Dm      G    C
* อยากจะบอกให้เธอรู้ ว่าใจฉันนั้นมันกังวลแค่ไหน
     Dm              Em              G
ก่อนที่พูดอะไรออกมา อยากจะขอให้เธอสัญญา ว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจ (ร้องไห้)

       C                    Em
**ก็ความรักของเรายังดีใช่ไหม ในความฝันเรายังมีกันใช่ไหม
     Am                     F               G
ใจเธอนั้นมันยังไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ความรักของเรายังคงเหมือนเดิม
      C                    Em
อยากจะขอให้เธอน่ะพูดเช่นนี้ บอกกับฉันว่าใจเธอคิดเช่นนี้
     Am                   F               G         C
บอกกับฉันให้ฉันมั่นใจซักที ว่าความรักของเรายังคงเหมือนเดิม.. ใช่หรือเปล่า

C                  Em               Am                  F7
ทำไมเธอช่างใจร้าย เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นคนคิดมาก ทำให้ใจฉันวุ่นวาย เป็นแบบนี้แล้วใครจะรับผิดชอบ
( *, ** )
Instru : / F / C / F / C / F / C / G
( ** )
---------------------------------------------------------
ถ้าชอบก็สนับสนุนเค้านะครับ http://music.gmember.com/ เพลงคิดมาก
  • *123
  • ดาวน์โหลดเพลงนี้ โทร :
    *123 1030122 4

ยินดีต้อนรับสู่ Too Many Think บล๊อกวุ่นวายของคนคิดเยอะ+++

ทักทาย สบายๆ สไตล์ Too Many Think+++

          สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทย ก็ขอกราบสวัสดีงามๆ แก่ผู้ที่เข้ามาอ่านบล๊อกแห่งนี้นะครับ ไม่มีอะไรมาก วันนี้ฝนตกฟ้าครึ้ม ก็เลยคิดมากนึกครึ้มอยากเขียนบล๊อกขึ้นมา พอความคิดสร้างสรรค์เริ่มเกิด ไอเดียก็บรรเจิดทันใด เปิดคอมลงมือ สมัครแล้วจะลงมือเขียนเลย แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตามมาเพราะ ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร ไอ้เราก็ไม่ใช่ ท่าน เทพ EXPERT ที่ไหน เป็น เด็กไทยกินข้าวเหนียว ธรรมดา คิดไปคิดมาก็เลย พบทางออกว่า อ้อ นี่เราคิดมากไป Too Many Think สุดๆ ก็ ทำบล๊อก เขียน Many Things ไปเลย ไม่ต้อง Something แบบ expert ก็ได้ ก็เขียนงูๆ ปลาๆ หรือเรื่องนานา(ไร้)สาระไปนั้นแหละ เรื่องที่ถนัดก็เขียนยาวหน่อย เรื่องที่ไม่ถนัดก็ เขียนตามความเข้าใจตามความรู้สึกไป คิดยังไงก็เขียนอย่างงั้น เหมือนเป็นการเล่นสู่กันฟังก็แล้วกัน อย่างไรก็ดี รับรองว่า หลากหลาย วาไรตี้สุดๆ แน่นอน

โม้มาซะยาวเลย โม้เสร็จก็เลยเมื่อยนิ้วน่าดู เดี๋ยวคงต้องไป ส่องดูก่อนว่า จะมีอะไรมาเขียนมาเล่าก็แล้วกัน สำหรับตอนนี้ก็ทักทายกันเล่นๆ ไปก่อน ยังไม่ทันไร ก็ มี คนเข้ามาดู 2 คนแล้วฮอตจริงๆ คนแรกก็คือ คนเขียนนั่นเองไม่ใช่ใคร ส่วนอีกคน ก็คงเป็น Bot ของกูเกิ้ลละมั้ง 5555++++ ไปก่อนดีกว่า รู้สึกแปลกๆ พิกล ^^

"มองโลกบวก ชีวิตก็บวก"

บทความที่ได้รับความนิยม